วีซ่านักเรียนอเมริกาF1 คือ วีซ่าที่ใช้เพื่อศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น การเรียนภาษาอังกฤษ การเรียนสายวิชาชีพต่างๆ การเรียนต่อปริญญาตรี ไปจนถึงปริญญาโท และปริญญาเอก รวมถึงหลักสูตรอื่นๆที่มีระยะเวลามากกว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ซึ่งบุคคลที่ต้องการจะไปเรียนต่อที่อเมริกาโดยทุนส่วนตัวไม่ได้มีองค์กรใดสนับสนุน ต้องใช้วีซ่าประเภท F-1 ในการยื่นขอ
โดยในวันนี้เรามาทำความรู้จักวีซ่าประเภทนี้กันดีกว่าว่า วีซ่าประเภทนี้มีขั้นตอนและวิธีการทำอย่างไร รวมทั้งกลยุทธ์การกรอกใบสมัครให้ถูกต้องและต้องใช้เอกสารใดในการยื่นขอบ้าง
เอาละ มาติดตามที่หัวข้อด้านล่างนี้กันเลย
หากคุณยังไม่มีสถานที่เรียน คุณอาจขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อไปดูลาดราวก่อนได้นะ โดยศึกษาวีซ่าประเภทนี้ได้จากบทความนี้เลย: วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
เรื่องสำคัญที่ต้องทราบก่อนสมัครวีซ่านักเรียน F1
การที่จะเริ่มทำการสมัครขอวีซ่านักเรียนอเมริกา หรือ F1 ได้นั้น ทางผู้สมัครจะต้องมีการติดต่อสถานศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาเสียก่อน
เพื่อให้ทางสถานศึกษา โรงเรียน สถาบัน หรือมหาวิทยาลัยนั้นๆ ออกจดหมายตอบรับที่เรียกว่า I20 ให้เรา
และโรงเรียนเหล่านั้นต้องเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก U.S. Citizenship and Naturalization Service
ซึ่งจดหมายตอบรับ I20 ตัวนี้จำเป็นต่อการยื่นขอวีซ่านักเรียนอย่างมาก
โดยการที่จะได้จดหมายตอบรับ I20 นั้นจำเป็นจะต้องลงเรียนทางด้านวิชาการผ่านวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ผ่านการรับรอง โรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา หรือโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษที่ผ่านการอนุมัติ รวมไปถึงหลักสูตรอื่นๆที่มากกว่า18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
แต่ถ้าหากลงเรียนน้อยกว่า 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเป็นคอร์สวิชาชีพที่นอกเหนือจากทางด้านวิชาการ หรือคอร์สฝึกอบรมใดๆ สามารถขอวีซ่าประเภท M ได้
แต่ในวันนี้เราขอพูดถึงวีซ่านักเรียนแบบ F1 มาทำความรู้จักวีซ่าประเภทนี้กันดีกว่าว่าวีซ่านักเรียนอเมริกาประเภท F-1 คืออะไร ต้องใช้เอกสารใดในการยื่นขอบ้าง
วีซ่านักเรียน F1 แตกต่างจากวีซ่านักเรียน J1 และ M1 อย่างไร
วีซ่า F1 มีข้อแตกต่างจากวีซ่า J1 และ M1 ในสาระสำคัญดังนี้:
- วีซ่า F1 คือ วีซ่าที่ออกให้นักเรียนทุนส่วนตัวหรือนักเรียนที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดในการเดินทางกลับประเทศของตัวเองหลังจากสำเร็จการศึกษา เช่นการไปเรียนภาษา คอร์สระยะสั้น 6 เดือน เรียนต่อปริญญาตรี โท เอก หรือเป็นการเรียนหลักสูตรใดๆทางด้านวิชาการนั่นเอง
- วีซ่า J1 คือ วีซ่าที่ออกให้นักเรียนทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง และมีข้อผูกมัดที่จะต้องกลับประเทศของตัวเองหลังจากสำเร็จการศึกษา เช่นการไป Work and Travel หรือเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
- วีซ่า M1 คือ วีซ่าที่ออกให้สำหรับบุคคลที่ต้องการเรียนในด้านวิชาชีพ หรือด้านอื่นๆที่นอกเหนือจากด้านวิชาการ หรือเข้าฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆที่จัดโดยสถาบันในประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วีซ่านักเรียนอเมริกาไม่ผ่าน
ปัจจัยที่ทำให้วีซ่านักเรียนอเมริกาไม่ผ่านหลักๆแล้วมีอยู่ 3 กรณี ดังนี้:
- คอร์สที่ลงเรียนไปนั้นไม่เหมาะสมกับวุฒิการศึกษาที่จบมาแล้ว เช่น ถ้าผู้สมัคร VISA F1 เรียนจบปริญญาตรีด้านภาษาแล้วจะไปลงเรียนคอร์สระยะสั้นภาษาอังกฤษทั่วไปอีกก็ไม่เหมาะสม
- อายุของผู้สมัคร ในกรณีที่เรียนจบมานานแล้ว อายุมากแล้วและต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น จะค่อนข้างถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ด้วยเรื่องของวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการขอวีซ่า แต่ถ้าหากกว่าขอไปเรียนปริญญา ตรี โท หรือ เอก ที่เป็นหลักสูตรวิชาการก็จะไม่ค่อยมีปัญหา
- หลักทรัพย์หรือเงินเก็บที่จะใช้ในการไปเรียนนั้นมีไม่มากพอ จริงๆแล้วทางสถานทูตไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีเงินมากเท่าไร แต่ผู้สมัครจะต้องพิจารณาจากระยะเวลาของคอร์สที่ผู้สมัครลงเรียนไป และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเช่น ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ค่าตั๋วเครื่องบิน ถ้ายิ่งไปอยู่นานมากเท่าไรก็ควรจะแสดงจำนวนเงินที่มาก เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของประเทศสหรัฐอเมริกาในภายหลัง
มีเงินเก็บไม่พอใช้สปอนเซอร์ได้ไหม
ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีเงินเก็บหรือมีแต่ไม่พอ ผู้สมัครสามารถใช้สปอนเซอร์ได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ได้นั้นควรมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเดียวกันเช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นต้น ที่อยู่ในประเทศไทย
ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่า F1
ค่าธรรมเรียมในการยื่นขอวีซ่า F1 จะแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้
- ค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกาจำนวน $160 โดยค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้
- ค่า Sevis จำนวน $200 เป็นค่าธรรมเนียมของระบบเก็บข้อมูลและติดตามนักเรียนที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักเรียนต่างชาติทุกคนที่ใช้แบบฟอร์ม I20 ในการยื่นขอวีซ่าต้องชำระค่าธรรมเนียมนี้และไม่สามารถขอคืนเงินได้ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครวีซ่านักเรียนอเมริกา
ผู้ที่จะสมัครวีซ่านักเรียนอเมริกาได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวคือ
- ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่ถ้าอายุต่ำกว่า 20 ปี อาจะจะต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครอง
- มีสถานศึกษาที่รองรับในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือมีใบ I20
- มีเงินมากพอที่จะไปเรียนต่อ
- มีพื้นฐานความรู้ การทำงาน ณ ปัจจุบัน ที่สมเหตุสมผลกับหลักสูตรที่ต้องการไปเรียนต่อ หรือถ้าจะเรียนอะไรที่ต่างไปจากเดิม ก็ควรชี้แจงได้ว่าทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรดังกล่าว
รายการเอกสารในการยื่นขอวีซ่านักเรียนอเมริกา F1
ในการยื่นขอคำร้องขอวีซ่านักเรียนอเมริกา หรือ Type F1 นั้น จะต้องทำการเตรียมเอกสารดังรายการต่อไปนี้ให้พร้อม และควรจะเป็นเอกสารตัวจริงทั้งหมด โดยเราอาจจะแยกเป็นเอกสารสำคัญและเอกสารอื่นๆ ดังนี้
เอกสารสำคัญ
- หนังสือเดินทาง (Passport) โดยต้องมีอายุคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ผู้สมัครตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างน้อย 6 เดือน
- ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
- รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้วที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (พื้นหลังสีขาว หน้าตรง ไม่สวมแว่นตา และควรเปิดหน้า)
- ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า
- แบบฟอร์ม I20 ที่มีลายเซ็นรับรองจากโรงเรียน
- ใบนัดสัมภาษณ์
เอกสารอื่นๆ
- เอกสารส่วนตัวอื่นๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบเกิด (ในกรณีที่ผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์) หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (ในกรณีที่ผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์)
- เอกสารการเงิน เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนและ Bank Guarantee ถ้าหากว่ามีสปอนเซอร์ให้ขอ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เอกสารทั้ง 2 อย่างนี้ควรออกเป็นภาษาอังกฤษ
- เอกสารแสดงสถานะการเรียนหรือการทำงาน ณ ปัจจุบัน เช่น ถ้าทำงานอยู่ให้ใช้หนังสือรับรองการทำงานพร้อมวุฒิและใบเกรดการศึกษาชั้นสูงสุด ถ้าศึกษาอยู่ให้ใช้ใบรับรองการเป็นนักเรียน นักศึกษา ใบเกรดเทอมล่าสุด
ขั้นตอนการยื่นขอ
ยื่นคำร้องออนไลน์
- โดยการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่เว็บไซต์ (https://ceac.state.gov/genniv/) โดยเลือกสถานที่ยื่นคำร้องวีซ่า สำหรับประเทศไทยนั้นจะมีให้เลือก 2 ที่คือ กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ จากนั้นสามารถเริ่มต้นการกรอกแบบฟอร์มได้
2. ระบบจะมีหมายเลขยืนยันแบบฟอร์ม หรือ Application ID ให้โดยอัตโนมัติ เราต้องจดหมายเลขนี้ไว้เพราะหมายเลขนี้สามารถใช้ยืนยันความปลอดภัยเพื่ออ้างอิงความเป็นเจ้าของแบบฟอร์มในกรณีที่เราต้องการกรอกข้อมูลต่อในภายหลัง ฟอร์มจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจในคำถามและตอบให้ถูกต้อง ตรวจทานทุกครั้งก่อนที่จะยื่น เพราะถ้าเรายื่นไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก
3. ข้อมูลในส่วนของการเดินทางหรือ Travel Information จะเป็นการใส่ข้อมูลที่พักหรือโรงเรียนที่ผู้สมัครได้ทำการติดต่อไว้แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีให้กรอกรายละเอียดในส่วนของสปอนเซอร์ (ถ้ามี) ด้วย
4. ในส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวกับการศึกษาและการทำงานนั้นจะเป็นส่วนข้อมูลที่สำคัญมากในการนำมาพิจารณา เพราะฉะนั้นการเขียนอธิบายหน้าที่การทำงานมีผลอย่างมาก หากผู้สมัครสามารถอธิบายถึงความสัมพันธ์ในหน้าที่การงานกับเหตุผลที่ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็จะสามารถทำให้การพิจารณาในครั้งนี้มีความน่าจะเป็นสูงที่จะผ่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่อีกด้วย
5. SEVIS Information จะเป็นข้อมูลที่อยู่ในเอกสาร I20 ซึ่งจะเป็นเอกสารที่ทางโรงเรียนส่งมาโดยจะมีข้อมูลของโรงเรียนและ SEVIS ID ที่เราต้องกรอกให้ครบถ้วน
6. หลังจากที่เรากรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย ก็ต้องอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังสีขาว โดยต้องปรับให้มีขนาดตรงตามที่สถานทูตอเมริกากำหนดไว้
7. เมื่อกรอกฟอร์มและอัพโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงหน้าต่างให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งและจะเข้าสู่หน้ายืนยันเพื่อพิมพ์เอกสารยืนยันไปยื่นในวันสัมภาษณ์
การชำระค่าธรรมเนียม
- หากไม่เคยยื่นวีซ่าอเมริกามาก่อน คุณจะต้องมีบัญชีโดยการสร้างใหม่ที่ (https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp) โดยเมื่อสร้างบัญชีเสร็จแล้วก็ให้เลือกหัวข้อ “การสมัครขอวีซ่าใหม่/นัดสัมภาษณ์” และกรอกข้อมูลทั้งหมดไปจนถึงการชำระเงิน
2. การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกามีอยู่ 2 วิธี นั่นก็คือ
-
- จ่ายเงินสด สามารถจ่ายได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยใช้ใบนำเงินฝากที่เราพิมพ์จากระบบออนไลน์ที่มีเลขอ้างอิงเพื่อยื่นชำระเงิน และเก็บใบนำฝากส่วนของลูกค้าที่ได้รับตราประทับจากธนาคารไว้เป็นหลักฐานยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
- โอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ EFT ซึ่งทางเราขอไม่แนะนำวิธีนี้เพราะจะยุ่งยากกว่าวิธีแรก เนื่องจากระบบ Internet Banking ของธนาคารไทยบางแห่งยังไม่รองรับ และการจ่ายเงินด้วยวิธี EFT นั้นจะต้องรอ 2 วันทำการเพื่อให้ระบบยืนยันการจ่ายเงินถึงจะนัดทำวีซ่าได้ซึ่งจะนานกว่าวิธีแรก
3. เมื่อเราชำระเงินเสร็จแล้วให้รอจนถึงเที่ยงของวันถัดไป (ในกรณีที่ชำระเงินสดผ่านธนาคารกรุงศรี) ระบบจะแสดงเลขที่ใบเสร็จรับเงินของเรา จากนั้นเราจึงจะทำการนัดหมายวันสัมภาษณ์ได้ โดยเลือกวันเวลาตามความสะดวก (สามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ได้ แต่จำกัดจำนวนครั้ง) เมื่อทำการนัดหมายเสร็จเรียบร้อยก็พิมพ์ใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยื่นในวันสัมภาษณ์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
การสัมภาษณ์วีซ่า F1
การสัมภาษณ์วีซ่า F1 นั้น จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และจะทราบผลทันทีหลังจากสัมภาษณ์ว่า ผู้ขอจะได้รับอนุมัติวีซ่าหรือไม่ เราจึงขอแนะนำให้คุณอ่านข้อมูลด้านล่างนี้อย่างละเอียด และหากเป็นไปได้ ควรซักซ้อมการสัมภาษณ์ เพื่อให้ไม่ประหม่าและตอบคำถามได้อย่างถูกต้องด้วย
- เตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) และเอกสารที่เราเตรียมไว้ให้พร้อม โดยการขอวีซ่านักเรียนอเมริกานั้นจะอยู่ที่การสัมภาษณ์เป็นหลัก และยื่นเอกสารไม่กี่อย่างเท่านั้นตามแต่เจ้าหน้าที่จะขอเช็คดูหรือไม่ ทั้งนี้ผู้สมัครทุกท่านควรเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วนทั้งหมด เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดูจะได้มีพร้อมให้เจ้าหน้าที่ดูได้ทันที ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารแต่เราไม่ได้นำมาด้วย อาจจะส่งผลเสียต่อการพิจารณาได้
- ควรไปให้ถึงสถานทูตก่อนเวลานัดหมาย 30 นาที แบบมีสัมภาระให้น้อยที่สุด เนื่องจากก่อนเข้าสถานทูตจะมีการแสกนร่างกาย และถ้ามีสิ่งของต้องห้ามหรือกระเป๋าขนาดใหญ่ทางสถานทูตจะไม่อนุญาตให้นำเข้าโดยเด็ดขาด ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นนำเข้าไปได้แค่ 1 เครื่องเท่านั้น และจะต้องปิดเครื่องและฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้า ขณะที่เข้าสัมภาษณ์
- จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจเอกสารเบื้องต้นและจัดเก็บข้อมูลลายนิ้วมือก่อนเข้าสัมภาษณ์ โดยระหว่างนี้จะมีการแนบตราไปรษณีย์แบบ EMS สำหรับส่งหนังสือเดินทางคืนมา ให้จดเลขสำหรับติดตามเอกสารไว้ ส่วนในกรณีที่นัดหมายเป็นกลุ่มนั้นก็สามารถเข้าสัมภาษณ์ได้พร้อมกัน
- การสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกานั้น แนะนำให้เตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษไว้ก่อน เพราะจะต่างไปจากวีซ่าท่องเที่ยวที่ส่วนมากแล้วเจ้าหน้าที่จะไม่พิจารณาเรื่องภาษาในการสัมภาษณ์ซักเท่าไหร่ ทั้งนี้ถ้าผู้สมัครรู้สึกประหม่าจริงๆแล้วตื่นเต้นจนไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดั่งใจ ก็สามารถขอสัมภาษณ์ภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์จะเป็นต่างชาติทั้งหมด ส่วนมากพอสื่อสารภาษาไทยได้ ในกรณีที่สื่อสารไม่รู้เรื่องจริงๆก็จะมีล่ามมาช่วย ในส่วนของการสัมภาษณ์นั้นเจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับคอร์สที่เราลงเรียนเป็นหลัก เช่น ลงเรียนคอร์สอะไรไป ระยะเวลาเท่าไร ทำไมต้องเป็นคอร์สนี้ ในบางกรณีหากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัย สามารถขอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมที่คุณนำมาด้วย แต่เจ้าหน้าที่จะนำมาประกาอบการพิจารณาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
- ผลการสัมภาษณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วจะมีอยู่ 2 สถานการณ์ที่คุณจะพบเจอ
5.1 ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทางของคุณไปและจะได้รับคืนพร้อมติดหน้าวีซ่านักเรียน F1 มาในเล่มหนังสือเดินทาง ส่งกลับมาทางไปรษณีย์ EMS ภายใน 3-7 วันทำการ โดยอายุของวีซ่าที่เราจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสถานทูต ซึ่งส่วนใหญ่วีซ่านักเรียนนั้นจะได้ครอบคลุมตามระยะเวลาคอร์สที่เราเรียน
5.2 ไม่ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะคืนหนังสือเดินทางของคุณหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว โดยเราจะไม่ได้รับค่าธรรมเนียมคืน ซึ่งหากต้องการจะยื่นขอวีซ่าอีกครั้งนั้นต้องทำการขอใหม่ตั้งแต่ต้น และชำระเงินอีกครั้ง
สถานที่ขอยื่นวีซ่าอเมริกา
สำหรับการขอยื่นวีซ่าอเมริกาที่ประเทศไทยนั้นมีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือ
- กรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย
95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- เชียงใหม่
สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่
387 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50300
เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
บริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา F1
จะเห็นได้ว่าการยื่นขอวีซ่านักเรียนของประเทศอเมริกานั้นอาจจะมีหลายขั้นตอนและเอกสารมากมาย ทางเราจึงเปิดให้บริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา หรือวีซ่า Type F1 ขึ้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ต้องการทำวีซ่าเพื่อไปเรียน
แม้เบื้องต้นถ้าทำตามขั้นตอนด้านบนนี้ วีซ่าของคุณอาจผ่านได้โดยไม่ยาก
แต่ถ้าหากว่ารู้สึกไม่มั่นใจในการทำวีซ่ากลัวว่าเตรียมเอกสารแล้วจะมีข้อผิดพลาดก็สามารถติดต่อที่ บาเบล เกี่ยวกับข้อมูลการยื่นขอวีซ่า หรือถ้าต้องการให้ทีมงานเตรียมเอกสารและยื่นขอให้ เราก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้การบริการทำวีซ่าพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลตลอดการยื่นขอ
บริษัท บาเบล มีการบริการและทำงาน แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด รวดเร็ว มีความรับผิดชอบ และบริการด้วยใจทุกระดับ
ที่นี่ยินดีให้บริการท่านด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความชำนาญและประสบการณ์ในการทำวีซ่ามานานกว่า 10 ปี
เราสร้างความมั่นใจในการจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและให้ข้อมูลตามจริงในการสัมภาษณ์ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ
ทุกปัญหาวีซ่าของคุณที่นี่ช่วยได้ ทางเราดูแลและติดตามผลหลังการให้บริการเป็นอย่างดี
หากท่านมีแพลนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาและต้องการยื่นขอวีซ่านักเรียน F1 สามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อดูแลการทำวีซ่าของท่านให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ถูกต้อง และรวดเร็ว
โดยลูกค้าที่สนใจจะใช้บริการวีซ่านักเรียน F1 กับทางบาเบล จะได้รับบริการดังนี้
- ให้คำปรึกษาตลอดขั้นตอน
- ให้รายการเอกสารของผู้สมัครและสปอนเซอร์ (ถ้ามี)
- กรอกแบบฟอร์มออนไลน์
- ร่างจดหมายต่าง ๆ สำหรับผู้สมัครหรือในกรณีที่มีสปอนเซอร์
- แปลเอกสารส่วนตัวจากไทยเป็นอังกฤษ (เอกสารที่จำเป็นที่ควรแปล)
- จัดเรียง packet เอกสาร
- จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า
- ทำนัดยื่นใบสมัครออนไลน์
- เตรียมคำถามตอบสัมภาษณ์และซักซ้อมสัมภาษณ์
- พาลูกค้าไปยื่นใบสมัครจนเสร็จสิ้นขั้นตอน
สรุป
การทำวีซ่านักเรียนอเมริกา หรือ วีซ่า F1 นั้น เป็นไปเพื่อการศึกษาต่อที่อเมริกาทั้งในระดับโรงเรียนและระดับมหาวิทยาลัย และการทำวีซ่าประเภทนี้จะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากให้ระดับหนึ่ง
ดังนั้น เราแนะนำให้คุณใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการกรอกใบสมัครและเตรียมเอกสารประกอบ หรือหากเป็นไปได้ คุณควรหามืออาชีพที่เค้ามีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านนี้มาช่วยทำ
เราหวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย และขอให้คุณประสบความสำเร็จในการขอวีซ่าและได้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาต่อไป