ขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 เพื่อไปเรียนและฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น

ขั้นตอนการขอวีซ่านักเรียนอเมริกาM1

ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเปิดกว้างสำหรับบุคคลต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อเข้ารับการศึกษา และเป็นประเทศเป้าหมายที่เด็กไทยจำนวนมากอยากไปเล่าเรียน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่สิ่งที่ต้องเตรียมการให้เรียบร้อยนอกจากการสมัครเรียนนั้นก็คือการทำวีซ่า วันนี้เรามารู้จักวีซ่าประเภทนี้กันดีกว่า ว่าวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 นั้นคืออะไร เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ขั้นตอนเป็นอย่างไร ตามหัวข้อด้านล่างนี้ได้เลย

บทความโดย Kittiwan Suthisabuy (Thia)

Table of Contents

วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 คืออะไร

วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 คือ วีซ่านักเรียนสำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเรียนหลักสูตรระยะสั้นในด้านวิชาชีพ เพื่อรับประกาศนียบัตรจากวิทยาลัยประเภท Community College หรือโรงเรียนเฉพาะทาง เช่น หลักสูตรศิลปะการทำอาหาร ท่องเที่ยวและการบริการ การศึกษาและการฝึกอบรบ การเรียนนักบิน เป็นต้น

เราอยากแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ประกอบเพื่อเปรียบเทียบด้วยนะ ว่าคุณเหมาะกับการสมัครวีซ่าตัวไหนดี : อ่านเพิ่มเติมวีซ่านักเรียนอเมริกา F1

วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 คืออะไร

วีซ่านักเรียน M1 แตกต่างจากวีซ่านักเรียน F1 และ J1 อย่างไร

  • วีซ่า M1 คือ วีซ่าที่ออกให้สำหรับบุคคลที่ต้องการเรียนในด้านวิชาชีพ หรือด้านอื่นๆที่นอกเหนือจากด้านวิชาการ หรือเข้าฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆที่จัดโดยสถาบันในประเทศสหรัฐอเมริกา
  • วีซ่า F1 คือ วีซ่าที่ออกให้นักเรียนทุนส่วนตัวหรือนักเรียนที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดในการเดินทางกลับประเทศของตัวเองหลังจากสำเร็จการศึกษา เช่นการไปเรียนภาษา คอร์สระยะสั้น 6 เดือน เรียนต่อปริญญาตรี โท เอก หรือเป็นการเรียนหลักสูตรใดๆทางด้านวิชาการนั่นเอง (สามารถดูข้อมูลวีซ่านักเรียนอเมริกา F1 ได้ที่นี่: ลิ้งค์)
  • วีซ่า J1 คือ วีซ่าที่ออกให้นักเรียนทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง และมีข้อผูกมันที่จะต้องกลับประเทศของตัวเองหลังจากสำเร็จการศึกษา เช่นการไป Work and Travel หรือเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน

*ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่า M1 จะไม่สามารถเปลี่ยนสถานะภาพเป็นวีซ่า F1 ได้ แต่ถ้าผู้ที่เดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่า F1 จะสามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่า M1 ได้ เช่นหลังจากเรียนจบ MBA และต้องการเรียนหลักสูตรท่องเที่ยวและการบริการเพิ่มเติมอีก 9 เดือน ต้องเปลี่ยนสถานะภาพ (Change status) จากวีซ่า F1 เป็น วีซ่า M1

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 ถูกปฏิเสธ

ปัจจัยที่ทำให้วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 ถูกปฏิเสธหลักๆแล้วมีอยู่ 3 กรณี ดังนี้

  • คอร์สที่ลงเรียนไปนั้นไม่เหมาะสมกับวุฒิการศึกษาที่จบมาแล้ว
  • อายุของผู้สมัคร ในกรณีที่เรียนจบมานานแล้ว อายุมากแล้วและต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษเท่านั้น จะค่อนข้างถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ด้วยเรื่องของวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการขอวีซ่า
  • หลักทรัพย์หรือเงินเก็บที่จะใช้ในการไปเรียนนั้นมีไม่มากพอ จริงๆแล้วทางสถานทูตไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีเงินมากเท่าไร แต่ผู้สมัครจะต้องพิจารณาจากระยะเวลาของคอร์สที่ผู้สมัครลงเรียนไป และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเช่น ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ค่าตั๋วเครื่องบิน ถ้ายิ่งไปอยู่นานมากเท่าไรก็ควรจะแสดงจำนวนเงินที่มากเพื่อจะไม่ให้เป็นภาระของประเทศสหรัฐอเมริกาในภายหลัง
ปัจจัยที่ทำให้วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 ไม่ผ่าน

มีเงินเก็บไม่พอใช้สปอนเซอร์ได้ไหม

ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีเงินเก็บหรือมีแต่ไม่พอ ผู้สมัครสามารถใช้สปอนเซอร์ได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ได้นั้นควรมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเดียวกันเช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นต้น

ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1

ค่าธรรมเนียมในการยื่นสมัครวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 จะแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกาจำนวน $160 โดยค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้
  • ค่าธรรมเนียม SEVIS สำหรับนักเรียนที่มีแบบฟอร์ม I-20 คือ $350 สำหรับนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนที่มีแบบฟอร์ม DS-2019 ค่าธรรมเนียม SEVIS คือ $220 ผู้สมัครจะต้องยื่นหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมนี้ก่อน คำร้องขอวีซ่านักเรียนหรือวีซ่านักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนของท่านจึงจะได้รับพิจารณาอนุมัติ ท่านไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาได้ ท่านสามารถศึกษาคำแนะนำในการชำระค่าธรรมเนียม SEVIS ได้ที่นี่ (https://www.fmjfee.com/i901fee/index.html)

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 ควรมีอะไรบ้าง

คุณควรตรวจสอบรายการด้านล่างนี้ดูก่อนนะ ว่าคุณมีคุณสมบัติเพียงพอในการขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 หรือไม่

  1. ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่ถ้าอายุต่ำกว่า 20 ปี อาจะจะต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครอง
  2. มีสถานศึกษาที่รองรับในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือมีใบ I20
  3. มีเงินมากพอที่จะไปเรียนต่อ
  4. มีพื้นฐานความรู้ การทำงาน ณ ปัจจุบัน ที่สมเหตุสมผลกับหลักสูตรที่ต้องการไปเรียนต่อ หรือถ้าจะเรียนอะไรที่ต่างไปจากเดิม ก็ควรชี้แจงได้ว่าทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรดังกล่าว
คุณสมบัติของผู้ขอวีซ่านักเรียน M1

รายการเอกสารในการยื่นขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 

ในการยื่นขอคำร้องขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 นั้น จะต้องทำการเตรียมเอกสารดังรายการต่อไปนี้ให้พร้อม และควรจะเป็นเอกสารตัวจริงทั้งหมด โดยเราอาจจะแยกเป็นเอกสารสำคัญและเอกสารอื่นๆ ดังนี้

  1. เอกสารสำคัญ
  • หนังสือเดินทาง (Passport) โดยต้องมีอายุคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ผู้สมัครตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างน้อย 6 เดือน
  • ใบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)
  • รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้วที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (พื้นหลังสีขาว หน้าตรง ไม่สวมแว่นตา และควรเปิดหน้า)
  • ใบเสร็จชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • แบบฟอร์ม I20 ที่มีลายเซ็นรับรองจากโรงเรียน
  • ใบนัดสัมภาษณ์

2. เอกสารอื่นๆ (เอกสารเพิ่มเติมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่กงสุลจะนำมาพิจารณาประกอบการสัมภาษณ์ โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณีโดยดูจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ขณะที่ทำการพิจารณา โดยอาจดูจากเจตนา สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาวของท่าน ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคลภายใต้กฎหมาย)

  • เอกสารส่วนตัวอื่นๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล ใบเกิด (ในกรณีที่ผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์) หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (ในกรณีที่ผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์)
  • เอกสารการเงิน เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนและ Bank Guarantee ถ้าหากว่ามีสปอนเซอร์ให้ขอ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เอกสารทั้ง 2 อย่างนี้ควรออกเป็นภาษาอังกฤษ
  • ใบรับรองความสามารถ หรือหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับการศึกษา เช่น ใบจบ ใบเกรด ใบรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษาในกรณีที่กำลังศึกษาอยู่ หรือ หนังสือรับรองการทำงาน ใบจบการศึกษาสูงสุด ใบเกรด ในกรณีที่เรียนจบแล้ว

*โดยเอกสารด้านการเงินและเอกสารอื่นๆที่จะช่วยสนับสนุนใบคำร้องของท่าน และมีความน่าเชื่อถือในการยืนยันว่าท่านมีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับการชำระค่าธรรมเนียมในการศึกษาของปีแรก ทั้งยังต้องสามารถบ่งบอกว่าท่านจะสามารถนำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอตลอดระยะเวลาที่ท่านอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้สมัคร M1 ท่านจะต้องแสดงหลักฐานยืนยันความสามารถในการชำระค่าศึกษาและค่าใช้จ่ายประจำวันตลอดระยะเวลาที่ตั้งใจจะพำนักอยู่

ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1

เอาละ เรามาถึงส่วนสำคัญ นั้นคือขั้นตอนการยื่นขอวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 เรามาเรียนรู้กันทีละ Step ตามขั้นตอนด้านล่างนี้นะ

ยื่นคำร้องออนไลน์

  1. โดยการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่เว็บไซต์ (https://ceac.state.gov/genniv/) โดยเลือกสถานที่ยื่นคำร้องวีซ่า สำหรับประเทศไทยนั้นจะมีให้เลือก 2 ที่คือ กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ จากนั้นสามารถเริ่มต้นการกรอกแบบฟอร์มได้

2. ระบบจะมีหมายเลขยืนยันแบบฟอร์ม หรือ Application ID ให้โดยอัตโนมัติ เราต้องจดหมายเลขนี้ไว้เพราะหมายเลขนี้สามารถใช้ยืนยันความปลอดภัยเพื่ออ้างอิงความเป็นเจ้าของแบบฟอร์มในกรณีที่เราต้องการกรอกข้อมูลต่อในภายหลัง ฟอร์มจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจในคำถามและตอบให้ถูกต้อง ตรวจทานทุกครั้งก่อนที่จะยื่น เพราะถ้าเรายื่นไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก

3. ข้อมูลในส่วนของการเดินทางหรือ Travel Information จะมีให้เลือกประเภทวีซ่าที่ต้องการสมัคร ให้กดเลือกตามรูปด้านล่างได้เลย และจะมีให้ใส่ข้อมูลที่พักหรือโรงเรียนที่ผู้สมัครได้ทำการติดต่อไว้แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีให้กรอกรายละเอียดในส่วนของสปอนเซอร์ (ถ้ามี) ด้วย

4. ในส่วนของข้อมูลที่เกี่ยวกับการศึกษาและการทำงานนั้นจะเป็นส่วนข้อมูลที่สำคัญมากในการนำมาพิจารณา เพราะฉะนั้นการเขียนอธิบายหน้าที่การทำงานมีผลอย่างมาก หากผู้สมัครสามารถอธิบายถึงความสัมพันธ์ในหน้าที่การงานกับเหตุผลที่ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็จะสามารถทำให้การพิจารณาในครั้งนี้มีความน่าจะเป็นสูงที่จะผ่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่อีกด้วย

5. SEVIS Information จะเป็นข้อมูลที่อยู่ในเอกสาร I20 ซึ่งจะเป็นเอกสารที่ทางโรงเรียนส่งมาโดยจะมีข้อมูลของโรงเรียนและ SEVIS ID ที่เราต้องกรอกให้ครบถ้วน

6. หลังจากที่เรากรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย ก็ต้องอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังสีขาวโดยต้องปรับให้มีขนาดตรงตามที่สถานทูตอเมริกากำหนดไว้

7. เมื่อกรอกฟอร์มและอัพโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงหน้าต่างให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งและจะเข้าสู่หน้ายืนยันเพื่อพิมพ์เอกสารยืนยันไปยื่นในวันสัมภาษณ์

* ผู้สมัครวีซ่าทุกท่านจะต้องกรอกแบบฟอร์ม DS-160 สำหรับการสมัครวีซ่าใหม่ทุกครั้ง ท่านจะไม่สามารถใช้แบบฟอร์ม DS-160 เดิมที่ท่านเคยใช้ในการสัมภาษณ์ครั้งก่อนมาใช้ในการสัมภาษณ์วีซ่าครั้งใหม่ได้ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป หมายเลขบาร์โค้ดบนแบบฟอร์ม DS-160 ที่ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวนำมาในวันสัมภาษณ์จะต้องเป็นหมายเลขเดียวกันกับที่ใช้จองนัดสัมภาษณ์วีซ่า หากท่านนำแบบฟอร์ม DS-160 ที่หมายเลขบาร์โค้ดไม่ตรงกันกับหมายเลขบนแบบฟอร์มที่ใช้ทำการจองนัดมา ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่า โดยท่านสามารถเข้าไปทำการแก้ไขหมายเลขบาร์โค้ด DS-160 ในโปรไฟล์ของท่านในเว็บไซต์ได้จนถึง 3 วันทำการก่อนวันนัดสัมภาษณ์ โดยการคลิก “Update profile” หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ Call Center ศูนย์บริการวีซ่าสหรัฐฯ เพื่อขอคำปรึกษา

การชำระค่าธรรมเนียม

  1. หากไม่เคยยื่นวีซ่าอเมริกามาก่อน คุณจะต้องมีบัญชีโดยการสร้างใหม่ที่ (https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp) โดยเมื่อสร้างบัญชีเสร็จแล้วก็ให้เลือกหัวข้อ “การสมัครขอวีซ่าใหม่/นัดสัมภาษณ์” และกรอกข้อมูลทั้งหมดไปจนถึงการชำระเงิน
ค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกา

2. การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่านักเรียนอเมริกามีอยู่ 2 วิธี นั่นก็คือ

  1. จ่ายเงินสด สามารถจ่ายได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยใช้ใบนำเงินฝากที่เราพิมพ์จากระบบออนไลน์ที่มีเลขอ้างอิงเพื่อยื่นชำระเงิน และเก็บใบนำฝากส่วนของลูกค้าที่ได้รับตราประทับจากธนาคารไว้เป็นหลักฐานยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
  2. โอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ EFT ซึ่งทางเราขอไม่แนะนำวิธีเพราะจะยุ่งยากกว่าวิธีแรก เนื่องจากระบบ Internet Banking ของธนาคารไทยบางแห่งยังไม่รองรับ และการจ่ายเงินด้วยวิธี EFT นั้นจะต้องรอ 2 วันทำการเพื่อให้ระบบยืนยันการจ่ายเงินถึงจะนัดทำวีซ่าได้ซึ่งจะนานกว่าวิธีแรก

3. เมื่อเราชำระเงินเสร็จแล้วให้รอจนถึงเที่ยงของวันถัดไป (ในกรณีที่ชำระเงินสดผ่านธนาคารกรุงศรี) ระบบจะแสดงเลขที่ใบเสร็จรับเงินของเรา จากนั้นเราจึงจะทำการนัดหมายวันสัมภาษณ์ได้ โดยเลือกวันเวลาตามความสะดวก (สามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ได้ แต่จำกัดจำนวนครั้ง) เมื่อทำการนัดหมายเสร็จเรียบร้อยก็พิมพ์ใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยื่นในวันสัมภาษณ์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

*ค่าธรรมเนียมยื่นคำร้องขอวีซ่า ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาท ต่อ ดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ และมีระบุไว้ในหน้าคำแนะนำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า และในหน้าคำแนะนำการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) กรุณาชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ระบุในใบคำแนะนำชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าดังกล่าว การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้ผู้สมัครไม่สามารถทำนัดหมายเพื่อเข้าสัมภาษณ์วีซ่าได้

การสัมภาษณ์วีซ่าซึ่งสามารถรู้ผลโดยทันที

  1. เตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) และเอกสารที่เราเตรียมไว้ให้พร้อม โดยการขอวีซ่านักเรียนอเมริกานั้นจะอยู่ที่การสัมภาษณ์เป็นหลัก และยื่นเอกสารไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่ก็ต้องเตรียมเอกสารๆอื่นๆไปให้พร้อม เนื่องจากเจ้าหน้าที่อาจจะขอเรียกดูได้ หรือเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ขอดูเอกสารอะไรเลยก็ได้เช่นกัน
  2. ควรไปให้ถึงสถานทูตก่อนเวลานัดหมาย 30 นาที แบบมีสัมภาระให้น้อยที่สุด เนื่องจากก่อนเข้าสถานทูตจะมีการแสกนร่างกาย และถ้ามีสิ่งของต้องห้ามหรือกระเป๋าขนาดใหญ่ทางสถานทูตจะไม่อนุญาตให้นำเข้าโดยเด็ดขาด ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นนำเข้าไปได้แค่ 1 เครื่องเท่านั้น และจะต้องปิดเครื่องและฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ด้านหน้า ขณะที่เข้าสัมภาษณ์
  3. จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจเอกสารเบื้องต้นและจัดเก็บข้อมูลลายนิ้วมือก่อนเข้าสัมภาษณ์ โดยระหว่างนี้จะมีการแนบตราไปรษณีย์แบบ EMS สำหรับส่งหนังสือเดินทางคืนมา ให้จดเลขสำหรับติดตามเอกสารไว้ ส่วนในกรณีที่นัดหมายเป็นกลุ่มนั้นก็สามารถเข้าสัมภาษณ์ได้พร้อมกัน
  4. การสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกานั้น แนะนำให้เตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษไว้ก่อน เพราะจะต่างไปจากวีซ่าท่องเที่ยวที่ส่วนมากแล้วเจ้าหน้าที่จะไม่พิจารณาเรื่องภาษาในการสัมภาษณ์ซักเท่าไหร่ ทั้งนี้ถ้าผู้สมัครรู้สึกประหม่าจริงๆแล้วตื่นเต้นจนไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดั่งใจ ก็สามารถขอสัมภาษณ์ภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์จะเป็นต่างชาติทั้งหมด ส่วนมากพอสื่อสารภาษาไทยได้ ในกรณีที่สื่อสารไม่รู้เรื่องจริงๆก็จะมีล่ามมาช่วย ในส่วนของการสัมภาษณ์นั้นเจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับคอร์สที่เราลงเรียนเป็นหลัก เช่น ลงเรียนคอร์สอะไรไป ระยะเวลาเท่าไร ทำไมต้องเป็นคอร์สนี้ ในบางกรณีหากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัย สามารถขอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมที่คุณนำมาด้วย แต่จะนำมาพิจารณาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
  5. ผลการสัมภาษณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วจะมีอยู่ 2 สถานการณ์ที่คุณจะพบเจอ

5.1 ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทางของคุณไปและจะได้รับคืนพร้อมติดหน้าวีซ่านักเรียน F1 มาในเล่มหนังสือเดินทาง ส่งกลับมาทางไปรษณีย์ EMS ภายใน 3-7 วันทำการ โดยอายุของวีซ่าที่เราจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสถานทูต ซึ่งส่วนใหญ่วีซ่านักเรียนนั้นจะได้ครอบคลุมตามระยะเวลาคอร์สที่เราเรียน

5.2 ไม่ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะคืนหนังสือเดินทางของคุณหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว โดยเราจะไม่ได้รับค่าธรรมเนียมคืน ซึ่งหากต้องการจะยื่นขอวีซ่าอีกครั้งนั้นต้องทำการขอใหม่ตั้งแต่ต้น และชำระเงินอีกครั้ง

การสัมภาษณ์วีซ่า

เทคนิคการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา M1

การสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา M1 นั้นโดยหลักๆแล้วคำถามที่เจ้าหน้าที่จะถามจะเป็นเรื่องของครอสเรียน เช่นไปเรียนที่ไหน ระยะเวลาเท่าไร เรียนอะไร พักที่ไหน ใครออกค่าใช้จ่ายให้

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ผู้สมัครวีซ่านักเรียนจะต้องเจอแน่นอนและคำตอบที่เราควรจะตอบไปนั่นก็คือตอบไปตามความจริง และควรจะมีความมั่นใจในการตอบคำถาม

อย่าตอบไปเรื่อยแบบไม่ตรงคำถาม หากเราไม่เข้าใจคำถามให้ถามเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่เป็นต่างชาติและส่วนมากจะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ จึงควรตั้งใจฟังคำถามดีๆและตอบคำถามตรงไปตรงมาอย่างสุภาพ ซึ่งแนะนำว่าผู้สมัครควรซักซ้อมก่อนจะไปสัมภาษณ์จริงจะได้ไม่รู้สึกประหม่าแล้วตอบคำถามได้อย่างไม่กังวล

เอาละ เราลองไปดูคลิปของสถานทูตอเมริการตามด้านล่างนี้กันเลย

สถานที่ขอยื่นวีซ่าอเมริกา

สำหรับการขอยื่นวีซ่าอเมริกาที่ประเทศไทยนั้นมีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือ

  • กรุงเทพฯ

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย

95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

  • เชียงใหม่

สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่

387 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50300

เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

สถานที่สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา

บริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา M1

วีซ่านักเรียนอเมริกาเป็นเหมือนใบผ่านทางในการขออนุญาตเข้าประเทศอเมริกา ซึ่งขั้นตอนการขอวีซ่านั้นอาจจะมีหลายขั้นตอนและเอกสารมากมาย ถ้าหากคุณเองไม่มั่นใจกลัวว่าการเตรียมเอกสารจะมีข้อผิดผลาดหรือไม่มีเวลาจัดการเตรียมเอกสารต่างๆสามารถติดต่อเรา บริษัท บาเบล วีซ่า แอนด์ ทรานสเลชั่น เกี่ยวกับบริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 ได้เลย

หรือถ้าต้องการให้ทีมงานเตรียมเอกสารและยื่นขอให้ เราก็มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้การบริการทำวีซ่าพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลตลอดการยื่นขอ

เรารู้ดีว่าแต่ละสถานทูตต้องการเอกสารอะไร แบบไหนบ้างเพื่อใช้ในการพิจารณาวีซ่าของคุณ และเรามีการบริการและทำงาน แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด รวดเร็ว มีความรับผิดชอบ และบริการด้วยใจทุกระดับ

ที่นี่ยินดีให้บริการท่านด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีชำนาญและประสบการณ์ในการทำวีซ่ามานานกว่า 10 ปี

เราสร้างความมั่นใจในการจัดเตรียมเอกสารให้คความรบถ้วนและให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ   เพียงคุณเข้ามาปรึกษากับเรา เรายินให้คำปรึกษาในทุกด้าน

โดยลูกค้าที่สนใจจะใช้บริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 กับทางบาเบล จะได้รับบริการดังนี้:

  • ให้คำปรึกษาตลอดขั้นตอน
  • ให้รายการเอกสารของผู้สมัครและสปอนเซอร์ (ถ้ามี)
  • กรอกแบบฟอร์มออนไลน์
  • ร่างจดหมายต่าง ๆ สำหรับผู้สมัครหรือในกรณีที่มีสปอนเซอร์
  • แปลเอกสารส่วนตัวจากไทยเป็นอังกฤษ (เอกสารที่จำเป็นที่ควรแปล)
  • จัดเรียง packet เอกสาร
  • จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • ทำนัดยื่นใบสมัครออนไลน์
  • เตรียมคำถามตอบสัมภาษณ์และซักซ้อมสัมภาษณ์
  • พาลูกค้าไปยื่นใบสมัครจนเสร็จสิ้นขั้นตอน
บริการรับทำวีซ่านักเรียนอเมริกา M1

บทสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเรียนต่อในด้านที่ไม่ใช่หลักสูตรปริญญาปกติเช่น สายอาชีพ สถาบันฝึกอาชีพ ในประเทศอเมริกาแล้วนั้น ก็ควรที่จะขอเป็นวีซ่านักเรียนอเมริกา M1 อย่างยิ่ง และวีซ่านักเรียนอเมริกาประเภทนี้ยังสามารถที่จะทำงานPart-time ได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าเอกสารไม่เยอะมากนักหากคุณต้องการเอกสารที่จะเตรียมเอง การขอวีซ่าเพื่อเข้าศึกษาในประเทศอเมริกานั้นอาจจะใช้เวลานาน แต่สามารถเป็นขั้นตอนที่ง่ายเนื่องจากสหรัฐอเมริกายังคงให้ความสนใจต้องรับนักศึกษาจากทุกประเทศ

ถ้าหากว่าคุณสนใจที่จะไปเรียนด้านสายอาชีพที่ประเทศอเมริกาและต้องการทำวีซ่าแต่สับสนกับขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติ บริษัท บาเบล ของเราสามารถช่วยคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสาร การกรอกแบบฟอร์ม รวมไปถึงพาไปสัมภาษณ์ ทางบาเบลจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ 

ผู้เขียน/Expert

Kittiwan Suthisabuy (Thia)

คุณเธียเป็นผู้ดูแลงานวีซ่าในหลากหลายประเทศ รวมถึงวีซ่านักเรียน M1, F1, J1 ด้วย

หากคุณผู้อ่านมีข้อสงสัยหรือคำถาม ก็สามารถโทรหาเราแล้วขอสายคุณเธียได้เลยน๊า

contact us