รายการเอกสารและขั้นตอนการทำวีซ่าแต่งงานหรือวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ อัพเดทปี 2023

บทความโดย: ชญานิศ (หญิง)

ตำแหน่ง: Senior Visa Specialist 

วีซ่าแต่งงานอังกฤษหรือวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ คือ วีซ่าสำหรับคู่รักของคนสัญชาติอังกฤษ (บริติช ซิติเซ่น) และคนที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่อังกฤษและในเครือสหราชอาณาจักร (Permanent Resident) โดยต้องการย้ายถิ่นฐานมาอยู่กับสามี/ภรรยาที่อังกฤษหรือกลุ่มประเทศในเครือสหราชอาณาจักรอย่างถาวร อีกทั้งยังสามารถนำบุตรมาด้วยได้

แม้ว่าเราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีความความรักได้ เพราะความรักนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ต่างชาติ ต่างศาสนา แม้จะอยู่ห่างไกลกันแบบครึ่งโลก ก็นำพามาพบพานกันได้

บางคู่ตกลงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ด้วยความต่างเรื่องสัญชาติทำให้การไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้นไม่ใช่แค่มีความรักอย่างเดียวก็พอ แต่ต้องมีวีซ่าด้วยเพื่อที่อีกฝ่ายจะสามารถเข้าไปอยู่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ในที่นี้จะขอพูดถึงวีซ่าสำหรับการติดตามสามี/ภรรยา ไปอยู่อังกฤษ (สหราชอาณาจักร) อย่างถาวร

มาดูกันว่าถ้าคุณเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต้องการไปอยู่กับสามี/ภรรยา ที่ประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ และเห็นภาพในทุกขั้นตอนของการขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ มาเริ่มกันตามหัวข้อด้านล่างนี้เลย

และหากคุณเป็นผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวีซ่าอังกฤษอย่างจริงจัง เราขอแนะนำให้คุณอ่านข้อมูลของวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษประกอบด้วย เพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

อ่านเพิ่มเติม: วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ

*เนื่องจากเนื้อหาจะค่อนข้างยาว เราขอแนะนำให้คุณกดแชร์ที่ปุ่มด้านบนก่อนเลยนะ เพื่อจะกลับมาหาอ่านได้ง่ายขึ้นนั้นเอง

วีซ่าแต่งงานอังกฤษหรือวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ หรือ UK Partner Visa คืออะไร?

เราขอย้ำถึงความหมายตรงนี้อีกครั้งว่า วีซ่าแต่งงานอังกฤษหรือวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ หรือ UK Partner Visa คือ วีซ่าสำหรับคู่รักของคนสัญชาติอังกฤษ (บริติช ซิติเซ่น) และคนที่มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่สหราชอาณาจักร (Permanent Resident) ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานมาอยู่กับสามี/ภรรยาที่สหราชอาณาจักรอย่างถาวร

อีกทั้งยังสามารถนำบุตรมาด้วยได้ โดยบุตรต้องมีอายุต่ำกว่า18 ปี ณ วันที่ยื่นใบสมัคร และยังไม่สามารถเลี้ยงดูหรือดูแลตัวเองได้

เมื่อได้วีซ่ามาแล้วจะสามารถเดินทางมาอยู่ มาใช้ชีวิต มาทำงาน หรือมาเรียนที่อังกฤษหรือประเทศในเครือสหราชอาณาจักรได้

โดยหน้าตาของวีซ่า ก็จะเป็นดังรูปด้านล่างนี้

อายุวีซ่าและค่าธรรมเนียมวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ

โดยปกติอายุของวีซ่าคู่สมรสอังกฤษจะอยู่ที่ 3 เดือน โดยสถานทูตจะให้ตั้งแต่วันที่ผู้สมัครต้องการเดินทางตามที่ได้แจ้งไว้ในใบสมัคร

นั่นหมายความว่าผู้สมัครเมื่อได้วีซ่าคู่สมรสมาแล้วจะต้องเดินทางเข้าอังกฤษหรือประเทศในเครือสหราชอาณาจักรภายใน 3 เดือน

เมื่อเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรแล้ว จะได้รับฺ BRP (Biometric Resident Permit) ทั้งนี้จะสามารถอยู่ในสหราชอาณาจักรได้ 2 ปี 9 เดือน หลังจากนั้นค่อยทำเรื่องขออยู่ต่อ (extend your stay) เป็นการถาวรต่อไป

และค่าธรรมเนียมในการทำวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ ที่ทางคุณจะต้องเตรียมสตางค์เพื่อใช้ในการสมัคร ก็จะมีค่าธรรมเนียมด้านล่างนี้นะ

รายการ	ค่าธรรมเนียม
ค่าวีซ่าสำหรับผู้สมัครหลัก	67,000 THB (1,523 ปอนด์)
ค่าวีซ่าสำหรับบุตร/ผู้ติดตาม	67,000 THB (1,523 ปอนด์)
ค่าImmigrant Health Surcharge สำหรับผู้สมัครหลัก	3,120 ปอนด์
ค่าImmigrant Health Surcharge สำหรับบุตร/ผู้ติดตาม	2,350 ปอนด์

*สามารถเช็คค่าธรรมเนียม Immigrant Health Surcharge ที่แน่นอนได้จากลิงค์นี้

https://www.immigration-health-surcharge.service.gov.uk/checker/type

**อัตราค่าธรรมเนียมเป็นราคาโดยประมาณ อาจขึ้นหรือลงตามเรทอัตราแลกเปลี่ยน

สถานที่ยื่นขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ

เมื่อถึงวันนัดหมาย ผู้สมัครจะต้องถือใบสมัคร หลักฐานการชำระเงิน และเอกสารประกอบมายื่นด้วยตนเอง ณ สถานที่ยื่นขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ โดยมีที่ทำการตั้งอยู่ ณ ศูนย์วีเอฟเอส ชั้น 28 อาคารเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา และ MRT ลงสถานีสุขุมวิท

หากไปไม่ถูก ก็ดูแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลย

ระยะเวลาในการรอผล UK Partner Visa

การพิจารณาการออกวีซ่าแต่งงานอังกฤษ หรือ UK Partner Visa โดยปกติจะใช้เวลาในการรอฟังผลอยู่ที่ภายใน 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือนนับจากวันที่ผู้สมัครได้เดินทางไปยื่นเอกสารที่ศูนย์ยื่นคำร้อง

อย่างไรก็ตามจำนวนวันในการพิจารณาอาจน้อยหรือมากกว่านั้น และอาจจะมีการขอเอกสารหรือมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่

ในกรณีที่ผู้สมัครมีความต้องการที่จะทราบผลวีซ่าอย่างเร่งด่วน หรือ เร็วกว่าระยะเวลาปกติคือ 12 สัปดาห์ ทางศูนย์วีเอฟเอสมีบริการขอวีซ่าแบบเร่งด่วนสำหรับวีซ่าคู่สมรส โดยจะใช้เวลา 1 เดือน หรือประมาณ 30 วันทำการนับจากวันที่ท่านได้สแกนลายนิ้วมือที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า ค่าบริการที่ต้องชำระเพิ่ม 27,000 บาท (อัตราค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

อย่างไรก็ตาม คำร้องขอวีซ่าของแต่ละท่านล้วนมีลักษณะเคสเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปตามคุณสมบัติพื้นฐานของผู้สมัคร ซึ่งถ้าหากคำร้องฯของท่านมีคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนด อาจส่งผลให้การพิจารณาคำร้องฯของท่านไม่แล้วเสร็จในระยะเวลาที่กำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่

และหากไม่สามารถดำเนินการด้วนให้ได้ ทางศูนย์ VFS ก็ไม่คืนตังที่ได้จ่ายเป็นค่าเร่งด่วนให้นะ

คุณสมบัติของผู้ขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) หรือ UK Partner Visa    

ผู้ที่จะขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษนั้น จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้:

1. ทั้งคู่ต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี
2. คนใดคนหนึ่งต้องมีสัญชาติบริติช หรือ มีถิ่นที่อยู่ถาวรของสหราชอาณาจักร
3. ต้องจดทะเบียนสมรส หรือ Civil Partnership ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือ Civil Partnership ต้องมีความสัมพันธ์อยู่กินร่วมกันมากกว่า 2 ปี
4. ผู้สมัครต้องตรวจสุขภาพแล้วผ่านเกณฑ์
5. ผู้สมัครต้องผ่านการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ในระดับ A1 เป็นอย่างต่ำ
6. สปอนเซอร์ (บริติช ซิติเซ่น) ต้องมีรายได้ผ่านเกณฑ์ที่จะรับรองคู่สมรส

คุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อการพิจารณาการอนุมัติวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป วีซ่าของท่านอาจโดนปฏิเสธได้ 

หลักเกณฑ์ในการพิจารณาวีซ่าแต่งงานอังกฤษ

หลักเกณฑ์ในแง่ของการลงข้อมูลในใบสมัคร

การขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษนั้น ผู้สมัครจะต้องกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่าในเว็บไซต์ของสถานทูตให้เรียบร้อยก่อนส่งเข้าระบบเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไปคือการชำระค่าธรรมเนียมและกำหนดวันนัดหมายเพื่อยื่นคำร้องที่ศูนย์รับยื่น

เมื่อสำเร็จแล้วจะต้องปริ้นออกมาประกอบกับเอกสารส่วนตัวต่างๆ และนำมาในวันยื่น

สิ่งสำคัญคือ ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบข้อมูลในใบสมัครว่าถูกต้องแล้วหรือไม่

โดยจะต้องให้สอดคล้องกันกับเอกสารที่ได้แนบประกอบไปเช่น ตัวสะกดชื่อ-นามสกุลผู้สมัครจะต้องตรงตามหน้าหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน ข้อมูลที่ทำงาน ชื่อ-ที่อยู่ ชื่อคู่สมรส เป็นต้น

หลักเกณฑ์เตรียมเอกสารประกอบอย่างครบถ้วน

นอกจากการกรอกใบสมัครให้ครบถ้วนแล้ว เอกสารที่แนบไปก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

คุณจะต้องพิสูจน์ให้ทางสถานทูตเห็นว่าในการเดินทางครั้งนี้คุณมีจุดประสงค์คือการไปอยู่ที่สหราชอาณาจักรอย่างถาวร

และจะไม่เป็นภาระของรัฐตลอดระยะเวลาที่คุณจะไปอยู่ที่นั่น

โดยทางสถานทูตจะพิจารณาเอกสารของสปอนเซอร์เป็นหลัก

ดังนั้นเอกสารการงาน การเงิน ที่อยู่อาศัย ของสปอนเซอร์จะสำคัญยิ่ง

เพื่อให้เจ้าหน้าที่มั่นใจได้ว่าสปอนเซอร์มีกำลังการเงิน

และสามารถดูแลผู้สมัครได้ตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่ในสหราชอาณาจักร

หลักเกณฑ์ในแง่ของสปอนเซอร์ต้องทำงานที่มั่นคง มีรายได้ หรือมีเงินออมทรัพย์

สปอนเซอร์ต้องแสดงหลักฐานเรื่องงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ที่เป็นแหล่งที่มาของรายได้ หรือทรัพย์สินเงินออมทรัพย์ ที่สามารถใช้รับรองผู้สมัครได้ โดยประเภทงานที่สามารถใช้รับรองผู้สมัครได้นั้นจะแบ่งตามที่มาของรายได้ดังนี้

1. รายได้จากการทำงานประจำในสหราชอาณาจักร เช่น พนักงานบริษัทที่ได้รับค่าจ้างรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน
2. รายได้จากการทำงานประจำต่างประเทศ
3. รายได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ เช่น เจ้าของบริษัท เจ้าของร้านค้าธุรกิจ เจ้าของเฟรนชาย
4. รายได้จากการไม่ได้ประกอบอาชีพ เช่น ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์
5. รายได้จากเงินบำนาญ (pension)
6. เงินออมทรัพย์

สปอนเซอร์สามารถเลือกแหล่งที่มาของรายได้อย่างได้อย่างหนึ่งได้

หรือจะนำมาบวกรวมกันได้มากกว่า 1 แหล่ง

แต่มีข้อยกเว้นบางประการว่าแหล่งที่มาของรายได้บางแหล่งจะไม่สามารถใช้ร่วมกันได้

ยกตัวอย่างเช่น รายได้จากการทำงานประจำในสหราชอาณาจักรติดต่อกันมากกว่า 6 เดือนสามารถบวกรวมกับรายได้จากการไม่ได้ประกอบอาชีพ (ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์) บวกเงินออมทรัพย์ บวกรายได้จากเงินบำนาญได้ ตัวอย่างต่อไปคือ เงินออมทรัพย์จะไม่สามารถนำมาคำนวณบวกรวมกับรายได้จากการเป็นเจ้าของกิจการได้ รวมถึงรายได้จากการทำงานประจำที่น้อยกว่า 6 เดือนได้ เป็นต้น

ถ้าสปอนเซอร์เลือกที่จะใช้รายได้จากแหล่งใดก็ตามที่ได้กล่าวมาทั้ง 6 ข้อนั้น สปอนเซอร์จะต้องแสดงหลักฐานเอกสารสนับสนุนที่เพียงพอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สถานทูตตรวจสอบ ว่าการกล่าวอ้างนั้นๆถูกต้องตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

หลักเกณฑ์ในแง่ของฐานะทางการเงิน/รายได้

การยื่นขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษมีเกณฑ์การพิจารณาการเงิน รายได้ ที่แตกต่างจากวีซ่าท่องเที่ยวเยี่ยมเยียนชั่วคราวอย่างสิ้นเชิง

โดยวีซ่าคู่สมรสนั้นจะพิจารณาการเงินและรายได้ของสปอนเซอร์ (บริติช ซิติเซ่น หรือ PR) เป็นหลัก

เพราะฉะนั้นผู้สมัครจึงไม่ต้องกังวลถ้าไม่มีงานทำหรือไม่มีรายได้ โ

ดยการพิจารณารายได้ขั้นต่ำของสปอนเซอร์ในการยื่นขอวีซ่าคู่สมรส (Partner Visa) ให้กับคู่รัก มีเกณฑ์กำหนดไว้อย่างชัดเจนดังต่อไปนี้

จำนวนผู้สมัคร	เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำของสปอนเซอร์ (ต่อปี ก่อนเสียภาษี)
สมัครคนเดียวโดยไม่มีบุตรติดตาม	18,600 ปอนด์
บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดตาม 1 คน	22,400 ปอนด์
บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดตาม 2 คน	24,800 ปอนด์
บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดตาม 3 คน	27,200 ปอนด์
บุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดตามมากกว่า 3 คน	27,200 + 2,400 ปอนด์ / ต่อคน

*ในกรณีที่สปอนเซอร์เลือกใช้เงินออมทรัพย์ มีหลักการคำนวณตามนี้

(X ลบ 16,000) / 2.5 = Y (X คือเงินออมทรัพย์ที่มี ลบด้วย 16,000 หารด้วย 2.5 จะเท่ากับ Y ซึ่ง Y คือยอดเงินที่สามารถใช้รับรองคู่สมรสในการยื่นวีซ่าได้) ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. มีเงินออมทรัพย์ 62,500 ปอนด์ เอาสูตรมาใช้จะคำนวณได้ตามนี้ (62,500 – 16,000) / 2.5 = 18,600 ดังนั้นถ้านาย ก. รับรองคู่รักแค่คนเดียวโดยไม่มีบุตรติดตามมาด้วย เงินออมทรัพย์ของนาย ก. เพียงพอที่จะใช้รับรองคู่รักได้ ในทางกลับกัน นาย ข. มีเงินออมทรัพย์ 60,000 ปอนด์ เอาสูตรมาใช้จะคำนวณได้ตามนี้ (60,000 – 16,000) / 2.5 = 17,600 ดังนั้นเงินออมทรัพย์ของนาย ข. ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ นาย ข. ต้องหารายได้แหล่งอื่นมาบวกรวมเพิ่ม

อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือเงินออมทรัพย์นั้นๆจะต้องมีอยู่ในบัญชีมาแล้วมากกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ยื่นใบสมัคร

หลักเกณฑ์ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างผู้สมัครกับสปอนเซอร์

ผู้สมัครและสปอนเซอร์ต้องยื่นหลักฐานความสัมพันธ์ประกอบการยื่นวีซ่าแต่งงานอังกฤษด้วย แบ่งตามเกณฑ์ดังนี้

กรณีที่จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ให้ยื่นทะเบียนสมรส ใบสำคัญการสมรส และหลักฐานอื่นๆยื่นประกอบไปด้วย เช่น รูปถ่ายคู่ รูปถ่ายกับครอบครัว เพื่อนฝูง แชทที่คุยกัน ตั๋วเครื่องบินที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น 

กรณีที่จดทะเบียน Civil partnership ให้ยื่นทะเบียนcivil partnership และหลักฐานอื่นๆยื่นประกอบไปด้วย เช่น รูปถ่ายคู่ รูปถ่ายกับครอบครัว เพื่อนฝูง แชทที่คุยกัน ตั๋วเครื่องบินที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น 

กรณีที่อยู่กินร่วมกันโดยไม่ได้จดสมรส คู่รักต้องแสดงหลักฐานมากเป็นพิเศษ ว่าเคยอยู่กินร่วมกันจริงมามากกว่า 2 ปี เช่น วีซ่าระยะยาวของสปอนเซอร์ที่อยู่ด้วยกันที่ไทย สัญญาเช่าที่พักอาศัย รูปถ่าย บัญชีร่วม เป็นต้น

รายการเอกสารในการขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ (Partner Visa)

โดยทั่วไปแล้วรายการเอกสารที่ผู้สมัครจะต้องนำมาแนบประกอบกับใบสมัคร โดยรายการเอกสารในการขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ (UK Partner Visa) จะประกอบด้วยดังนี้:

• หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน
• หนังสือเดินทางเล่มเก่าทุกเล่มที่มี
• เอกสารส่วนตัวต่างๆ เช่น ใบเกิด ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล
• เอกสารแสดงการทำงาน (ถ้ายังทำงานอยู่)
• หนังสือรับรองอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวและคำสั่งศาล (ในกรณีที่จะพาบุตรที่เกิดจากความสัมพันครั้งเก่าไปด้วย)
• หลักฐานความสัมพันธ์
• ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ
• ผลตรวจสุขภาพ

อนึ่ง เอกสารที่เป็นภาษาไทย จะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ

เฮ้ย ทำไมต้องแปล?

เพราะคนดูใบสมัครจะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งตอนนี้ใบสมัครถูกส่งไปที่อินเดียด้วย แล้วคุณคิดว่าเค้าจะทำอย่างไรกับเอกสารของคุณ ถ้าเค้าอ่านไม่ออกละ

โดยทั่วไปแล้วรายการเอกสารของสปอนเซอร์ ที่จะต้องนำมาแนบประกอบกับใบสมัครคำร้องขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษจะประกอบด้วยดังนี้:

• หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน
• หนังสือเดินทางเล่มเก่าทุกเล่มที่มี
• เอกสารส่วนตัวต่างๆ
• หลักฐานบ้านที่สหราชอาณาจักร ที่จะใช้รับรองผู้สมัคร
• หลักฐานงานที่ทำ พิจารณาจากแหล่งที่มาของรายได้ที่จะเลือกใช้ เช่น

กรณีรายได้จากการทำงานประจำในสหราชอาณาจักร ให้ใช้หนังสือรับรองการทำงาน สัญญาจ้างงาน สลิปเงินเดือนหรือค่าจ้าง

กรณีรายได้จากการทำงานประจำนอกสหราชอาณาจักร ให้ใช้หนังสือรับรองการทำงาน สัญญาจ้างที่ต่างประเทศ และหนังสือเสนองานในสหราชอาณาจักร (Job offer in UK)

กรณีรายได้จากการเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้หนังสือรับรองบริษัท หรือเอกสารที่แสดงว่าเป็นเจ้าของกิจการนั้นๆ งบการเงิน หลักฐานภาษีบริษัท เป็นต้น

กรณีรายได้จากการไม่ได้ประกอบอาชีพ (Passive income) เช่น การปล่อยเช่าบ้าน ให้ใช้เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของบ้านพร้อมที่ดินที่ปล่อยเช่า สัญญาเช่า และหลักฐานการได้รับค่าเช่า เป็นต้น

กรณีรายได้จากเงินบำนาญ (pension) ให้ใช้หนังสือรับรองเงินบำนาญ หลักฐานการได้รับเงินบำนาญ เป็นต้น

กรณีเงินออมทรัพย์ ให้ใช้รายการเดินบัญชีย้อนหลัง  6 เดือนหรือมากกว่า ที่แสดงยอดคงเหลือที่เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น

• รายการเดินบัญชี หรือ Bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ 1 ปี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์แหล่งที่มารายได้ที่ทางสปอนเซอร์จะเลือกใช้
• เอกสารการเสียภาษีเงินได้

*ถ้าเคสของคุณมีความซับซ้อนมาก แนะนำให้ปรึกษาหรือรับบริการจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินเคสและความเป็นไปได้เสียก่อน

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

หนึ่งในเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการยื่นขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ นั่นคือผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

ที่ผู้สมัครต้องสอบให้ผ่านระดับ A1

การสมัครเข้าสอบนั้นต้องนัดหมายล่วงหน้าทางระบบออนไลน์และสามารถทำการชำระค่าสอบทางออนไลน์ได้เลย

ค่าสอบอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท

หลังจากสอบเสร็จผลสอบจะถูกจัดส่งมาให้ที่บ้านตามที่อยู่ที่ได้ระบุไว้

หรือสามารถมารับได้ที่ศูนย์โดยตรงได้ตามความสะดวก

ซึ่งจะใช้เวลารอผลประมาณ 1 สัปดาห์

และผลสอบนี้จะมีอายุใช้งานได้ 2 ปีนับจากวันที่ออก

โดยสามารถสมัครสอบได้กับ 2 สถาบันดังนี้

IDP รายละเอียดเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

https://www.ielts.idp.co.th/ielts_life_skills.aspx

British Council รายละเอียดเพิ่มเติมตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

https://www.ieltsasia.org/th/ielts-for-uk

การตรวจสุขภาพเพื่อทำวีซ่า  

อีกหนึ่งเอกสารที่สำคัญที่ผู้สมัครต้องยื่นประกอบการสมัครวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) นั่นคือผลตรวจสุขภาพที่ผ่านเกณฑ์

โดยทางสถานทูตสหราชอาณาจักรได้กำหนดให้ผู้สมัครวีซ่าถาวรต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพกับสถาบันที่ได้รับการรับรองจากสถานทูต

ในที่นี่คือ IOM

ผู้สมัครต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ และชำระค่าตรวจ ณ วันที่เข้ารับการตรวจกับสถาบันโดยตรง

ค่าตรวจสุขภาพประมาณ 3,800 บาท

โดยเน้นการตรวจเอ็กซเรย์ปอด ถ้าผลออกมาปกติ ผู้สมัครจะได้รับผลตรวจทันที

ถ้าผลออกมาแล้วปรากฏว่าพบจุดในปอด ทางคุณหมอจะสั่งให้ตรวจซ้ำ บางรายต้องเข้ารับการเก็บเสมหะ น้ำลาย 3 ครั้ง เพื่อตรวจสอบให้ละเอียด ซึ่งอาจทำให้ได้รับผลล่าช้า ตัวอย่างผลตรวจสุขภาพ

ขั้นตอนการขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) หรือ UK Partner Visa

เพื่อให้เข้าใจง่ายขอแบ่งขั้นตอนการทำใบสมัครออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบไปด้วย การทำใบสมัครออนไลน์ การกรอกAppendix 2 และการยื่นเอกสารเข้าสถานทูต

1.การทำใบสมัครออนไลน์ เข้าระบบออนไลน์เพื่อเริ่มกรอกใบสมัคร ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

https://visas-immigration.service.gov.uk/apply-visa-type/appendixfm

จะขึ้นแสดงหน้าต่างตามรูปภาพนี้ให้เลือกไปที่ Appendix FM Partner >> เลือกสถานที่ที่สมัครว่าสมัครจากประเทศอะไร >> ใส่อีเมลเพื่อลงทะเบียนสมัคร >> ใส่เบอร์โทรเพื่อลงทะเบียนสมัคร

เมื่อสร้างแอคเคาท์ใบสมัครเรียบร้อยผู้สมัครจะได้รับอีเมลแจ้งจาก UKVI ส่งลิงค์คอนเฟิร์มการลงทะเบียน ให้กดที่ลิ้งค์นั้นเพื่อเข้าระบบเริ่มทำใบสมัครได้

เมื่อกรอกใบสมัครออนไลน์เรียบร้อย ให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนที่จะกดยื่นใบสมัครออนไลน์

เมื่อแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างถูกต้องให้กดยื่นออนไลน์ ระบบจะให้ทำจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า และค่า Health Surcharge

เมื่อทำจ่ายเรียบร้อยให้ปริ้นส์ใบเสร็จ ใบสมัครออกมาด้วย เพื่อรวบรวมนำไปยื่นต่อ VFS UK ต่อไป

2.การทำ Appendix 2 ไม่สามารถกรอกด้วยระบบออนไลน์ได้ ผู้สมัครจะต้องดาวโหลดใบสมัคร Appendix 2 มากรอกได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้

https://www.gov.uk/government/publications/application-for-uk-visa-for-family-settlement-form-vaf4a

ตัวอย่างการกรอก Appendix 2 หน้าแรกจะให้เลือกสถานภาพความสัมพันระหว่างผู้สมัครกับสปอนเซอร์ ในกรณีที่จดทะเบียนสมรสกันแล้วให้เลือกตามรูปด้านล่างได้เลย

ในกรณีที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่อยู่กินร่วมกันมา 2 ปี ให้เลือก Unmarried Partner

อีกหนึ่งจุดที่สำคัญในการกรอกแบบฟอร์มนี้อยู่ที่หน้า 5 ตามรูปด้านล่างนี้ ถ้าผู้สมัครไม่มีบุตรติดตามใดๆ สมัครเพียงคนเดียวให้กากบาทตรงช่างตามรูปได้เลย

ซึ่งจะเห็นว่ารายได้ขั้นต่ำของสปอนเซอร์ที่จะใช้รับรองผู้สมัครขั้นต่ำอยู่ที่ 18,600 ปอนด์ก่อนเสียภาษี

ถ้ามีบุตรติดตามเพิ่มให้กากบาทตามช่องด้านล่างที่เหมาะสมตามจำนวนบุตรที่ติดตามได้เลย ซึ่งรายได้ขั้นต่ำของสปอนเซอร์ที่จะใช้รับรองผู้สมัครและบุตรก็จะเพิ่มตามไปด้วย

ต่อมาจะต้องเลือกแหล่งที่มาของรายได้ของสปอนเซอร์ที่ต้องการใช้สำหรับรับรองผู้สมัคร

ตามรูปด้านล่างนี้ขอยกตัวอย่างกรณีที่สปอนเซอร์ทำงานประจำในสหราชอาณาจักร ให้เลือกกากบาทที่ช่อง Income from Salaried Employment in UK

และสปอนเซอร์ทำงานกับนายจ้างปัจจุบันมานานมากกว่า 6 เดือน ให้เลือกกากบาทที่ Category A

ในกรณีที่สปอนเซอร์จะใช้แหล่งรายได้อื่น สามารถเลือกกากบาทในช่องตามที่เหมาะสมได้เลย เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์แล้วให้ปริ้นส์แบบฟอร์มออกมา และแนบยื่นพร้อมกับใบสมัครออนไลน์ ณ ศูนย์วีเอฟเอส ยูเค ได้เลย

3.การยื่นเอกสารเข้าสถานทูต

เมื่อทำขั้นตอนที่ 1 และ 2 เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าสู่การทำนัดเพื่อเข้าไปยื่นเอกสาร พิมพ์ลายนิ้วมือ biometric finger print ที่ VFS UK ศูนย์วีเอฟเอส ยูเค ชั้น 28 อาคารเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ซอยสุขุมวิท 13 ตามลิงค์ด้านล่างนี้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่เปิดทำการในประเทศไทยจะมีที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่

https://www.vfsglobal.co.uk/th/en/vacs/bangkok

https://www.vfsglobal.co.uk/th/en/vacs/chiang-mai

เมื่อทำนัดเรียบร้อยแล้ว ให้รวบรวมเอกสารทั้งหมด จัดเรียงให้เรียบร้อย

โดยห้ามมีการติดลวดเย็บกระดาษหรือเทปกาวใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อถึงวันนัดหมาย ผู้สมัครจะต้องถือเอกสารทั้งหมดขึ้นไปยื่นเอกสารด้วยตัวเองและทำการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์ และถ่ายรูปสำหรับติดวีซ่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารทั้งหมดไปสแกนส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาผลต่อไปก่อนที่จะคืนเอกสารทั้งหมดให้กับผู้สมัคร

ยกเว้นหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันที่จะเก็บไว้เพื่อติดตราวีซ่า

โดยขั้นตอนการพิจารณาวีซ่าแต่งงานอังกฤษนั้นจะใช้เวลาประมาณ 12 อาทิตย์ หรือ 3 เดือน  

บริการรับทำวีซ่าแต่งงานอังกฤษ

หากคุณกำลังวางแผนย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับสามี/ภรรยา ที่สหราชอาณาจักรอย่างถาวร แต่ยังกังวลเกี่ยวกับการทำวีซ่าแล้วล่ะก็ ทางเรามีบริการรับทำวีซ่าแต่งงานอังกฤษ (UK Partner Visa) ด้วยนะ

เพราะบริษัทบาเบล วีซ่า แอนด์ ทรานสเลชั่น เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการทำวีซ่ามาแล้วทุกประเภททั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น วีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว วีซ่าเพื่อเรียนต่อ วีซ่าสำหรับแต่งงาน วีซ่าคู่หมั้น หรือ วีซ่าสำหรับเยี่ยมญาติ ของหลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ประเทศในกลุ่มเชงเก้น อาทิ สเปน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการและสถานทูตต่างๆ และภาคเอกชน

รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั้งจากในนามบุคคลและหน่วยงานต่างๆ มาแล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยลูกค้าที่สนใจจะใช้บริการกับทางบาเบล จะได้รับบริการสำหรับการยื่นขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ (สหราชอาณาจักร) ดังนี้;

• ให้คำปรึกษาตลอดขั้นตอน
• ให้รายการเอกสารของผู้สมัครและสปอนเซอร์ (ถ้ามี)
• กรอกแบบฟอร์มออนไลน์และแบบฟอร์มอื่นๆ
• ร่างจดหมายต่าง ๆ สำหรับผู้สมัครและสปอนเซอร์
• แปลเอกสารส่วนตัวจากไทยเป็นอังกฤษพร้อมส่งรับรองกงสุล
• จัดเรียง packet เอกสาร
• จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า
• ทำนัดยื่นใบสมัครออนไลน์
• เตรียมคำถามตอบสัมภาษณ์
• พาลูกค้าไปยื่นใบสมัครจนเสร็จสิ้นขั้นตอน
• รับผลวีซ่าแทนลูกค้า

ข้อแนะนำก่อนเริ่มสมัครวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ

เอาละก่อนที่จะเริ่มต้น เรามีข้อแนะนำก่อนเริ่มสมัครวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ มาให้พิจารณาและติดไว้ในใจระหว่างขั้นตอนที่ยาวนานดังนี้;

1. รายได้ของสปอนเซอร์ต้องผ่านเกณฑ์ และมีเอกสารสนับสนุนครบถ้วนสมบูรณ์
2. ควรโฟกัสเลือกแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกมาแค่1แหล่งหลักๆเว้นแต่ไม่สามารถผ่านเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำได้จาแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว เนื่องจากถ้าใช้เกณฑ์รวมรายได้หลายแหล่ง จะทำให้ต้องยื่นเอกสารสนับสนุนเยอะตามไปด้วย
3. เมื่อพิจารณาข้อ 1 ,2 แล้วว่าทำได้เป็นไปได้ ให้เริ่มสมัครสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ และนัดตรวจสุขภาพได้ทันที เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะเอกสารทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้เวลาดำเนินการ

คำถามที่พบบ่อย

สรุป

 เราหวังว่าข้อมูลข้างต้น จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจหรือกำลังเตรียมตัวเพื่อขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษบ้างไม่มากก็น้อย แต่เราอยากย้ำไว้ตรงนี้ว่า การขอวีซ่าผลจะออกมาผ่านหรือไม่ผ่านนั้น นอกจากคุณสมบัติของผู้สมัครจะมีส่วนสำคัญแล้ว การจัดทำข้อมูลและเอกสารเพื่อใช้ในการขอวีซ่าคู่สมรสอังกฤษอย่างถูกต้องและถูกหลักก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เพราะหากเตรียมเอกสารและข้อมูลลวกๆ ไป ก็จะมีปัญหาตามมาและวีซ่าอาจถูกปฎิเสธในที่สุดได้ ยิ่งค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียและค่าธรรมเนียมวีซ่าสูงมาก ซึ่งจะไม่สามารถขอคืนได้

 ดังนั้น ท่านควรรู้ว่าจุดอ่อนของท่านคืออะไร และจุดแข็งของท่านคืออะไร และพยายามทำใบสมัครวีซ่าให้ออกมาดีและถูกต้องตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของประเทศอังกฤษหรือสหราชณาจักรด้วย ท่านก็จะประสบความสำเร็จในการขอวีซ่าเพื่อโยกย้ายถิ่นฐานครั้งนี้อย่างแน่นอน

อนึ่ง เมื่อผลวีซ่าถูกตัดสินเรียบร้อย ทางสถานทูตจะมีการส่งข้อความแจ้งว่าให้มารับหนังสือเดินทางคืน ณ ศูนย์บริการที่ผู้สมัครได้มายื่นคำร้อง หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับท่าน

ในกรณีที่วีซ่าผ่าน ทางสถานทูตจะติดหน้าวีซ่าลงในหนังสือเดินทาง

ถ้าท่านกำลังอ่านบทความของเราอยู่นั้น แล้วมีคำถามอยากถามเพิ่มเติม หรือต้องการให้เราช่วยเหลือ สามารถติดต่อทีมงานเราได้เลย ทางบาเบลยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการด้วยใจ

เอาละ เตรียมเก็บของ แล้วย้ายถิ่นฐานกันดีฟร้า

บทความโดย

คุณชญานิศ (หญิง)

ตำแหน่ง: ผู้เชี่ยวชาญ/Expert ฝ่ายวีซ่าต่างประเทศ

• ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• ประสบการณ์ 12 ปี ในงานวีซ่าต่างประเทศ

ติดต่อเลย